#CIACoachColumn
#ขอแนะนำบทความชุด “Internal Auditing 4.0 (#IA4.0)”
#ตอน : “#AI” มาแทนที่ “#IA” จริงหรือ???
นายสิริชัย สกุลแพร่พาณิชย์ (โค้ชเม้ง)
CIA, CRMA, C-PA, CPIAT, IAEP, EIAP,
ISMS Lead Auditor
ปริญญาตรี บัญชี จุฬาฯ (Shi 58)
และปริญญาโท หลักสูตร MSCG จุฬาฯ (รุ่นที่ 1)
#ในปัจจุบันท่านผู้อ่านคงเคยได้ทราบข่าวจากสื่อต่างๆ มากมายและอย่างต่อเนื่องว่าจะมี “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence: AI) และ“หุ่นยนต์” (Robots) มาทำงานแทนมนุษย์อย่างพวกเรา ซึ่งมีหลายอาชีพที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึงอาชีพนักบัญชี และอาชีพที่เกี่ยวข้องด้วย ได้แก่ ผู้ตรวจสอบภายนอก หรือผู้สอบบัญชี (External Auditor) และผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditor : IA) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ก่อนอื่นคงต้องอธิบายกันก่อนว่า “ #ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence: #AI) ที่หลายคนมักพูดถึง แต่อาจยังไม่เข้าใจความหมาย เพราะไม่คุ้นเคยเหมือนกับคำว่า “หุ่นยนต์” นั้นคืออะไร และอาชีพ “ผู้ตรวจสอบภายใน” (Internal Auditor : IA) เป็นอย่างไร
#ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: #AI) ตามความหมายที่ระบุอยู่ในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี หมายถึง “ความฉลาดเทียมที่สร้างขึ้นให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาหนึ่งในด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ยังรวมถึงศาสตร์ในด้านอื่น ๆ อย่างจิตวิทยา ปรัชญา หรือชีววิทยา ซึ่งสาขาปัญญาประดิษฐ์เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการการคิด การกระทำ การให้เหตุผล การปรับตัว หรือการอนุมาน และการทำงานของสมอง…”
#และอาชีพผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditor : #IA) มีบทบาทหน้าที่ตาม “คำนิยามของการตรวจสอบภายใน” (Definitionof Internal Auditing) ที่ระบุอยู่ใน Website ของสมาคมผู้ตรวจสอบภายในแห่งสหรัฐอเมริกา (The Institute of Internal Auditors - IIA) (www.theiia.org) มีดังนี้
“การตรวจสอบภายใน คือ การให้ความเชื่อมั่นและการให้คำปรึกษา อย่างเที่ยงธรรมและเป็นอิสระ เพื่อเพิ่มคุณค่าและปรับปรุงการดำเนินงานขององค์กร การตรวจสอบภายในช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย ด้วยการประเมินและปรับปรุงประสิทธิผลของกระบวนการบริหารความเสี่ยง การควบคุม และการกำกับดูแล อย่างเป็นระบบ และเป็นระเบียบ”
#ในปัจจุบันมีหลายอุสาหกรรมเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์เข้าไปช่วยเหลือการทำงานของมนุษย์แล้วแบบจริงจัง เช่น การแพทย์ ใช้ช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำมากขึ้น การเกษตร ใช้ช่วยบรรเทาการใช้แรงงานมนุษย์และเพิ่มผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ การประกันภัย ใช้วิเคราะห์ข้อมูลผู้ถือกรมธรรม์ สามารถพิจารณาเงินประกันที่ต้องจ่ายกับผู้ถือกรมธรรม์ในแต่ละกรณีได้ การเงิน การธนาคาร ใช้ เป็นผู้ช่วยให้กับลูกค้า โดยเป็นที่ปรึกษาด้านการทำธุรกรรมการเงินให้กับลูกค้า เป็นเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อป้องกันการทุจริต ทำหน้าที่วิเคราะห์ศักยภาพด้านการเงิน เพื่อวางโครงสร้างธุรกิจและกลยุทธ์ให้กับธุรกิจการเงิน การธนาคาร ระบบการขนส่งสาธารณะ ใช้เป็นผู้ช่วยสำคัญในการติดตาม วิเคราะห์เส้นทางและหลบหลีกสิ่งกีดขวางเพื่อช่วยในการขับขี่ให้กับมนุษย์ งานก่อสร้าง ใช้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับมนุษย์ ตั้งแต่ก่อนจนถึงหลังก่อสร้าง และอุตสาหกรรมการผลิต ใช้AI และหุ่นยนต์ เข้ามาดำเนินการผลิตแทนแรงงานมนุษย์ เป็นต้น
#จะเห็นได้ว่ามีการนำAIและหุ่นยนต์ไปช่วยเหลือการทำงานของมนุษย์แล้วในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้มีผลกระทบต่ออาชีพต่างๆ ที่เสี่ยงจะถูกทดแทนด้วย AI และหุ่นยนต์ นั่นหมายความว่า AI และหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่ การจ้างงานมนุษย์จะน้อยลง และนี่คือ 10 อาชีพที่ต้องจับตา เพราะในต่างประเทศเริ่มใช้ทำงานแทนกันแล้ว และโอกาสที่ AI และหุ่นยนต์จะแทนที่ แสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) มีดังนี้
นักบัญชี 98% พนักงานขาย 94.4% พนักงานจ่ายยา 94% เกษตรกร 76% นักกฎหมาย 66% คนขับแท็กซี่ 57% นักวิเคราะห์การเงิน 41% ดารา 37%นักข่าว / นักเขียน 33% และล่าม 33%
#อาชีพนักบัญชีเป็นอาชีพที่มีโอกาสที่AIและหุ่นยนต์จะแทนที่มากที่สุด คือ 98% โดย Deloitte หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีสี่แห่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประเมินว่า 95% ของอาชีพนี้จะสูญเสียตำแหน่งงานไป เพราะจะมีการแทนที่ด้วย AI และหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัตต่างๆ ซึ่งในหลายๆ หน้าที่ของอาชีพนี้ ได้รับการยืนยันแล้วว่า หุ่นยนต์จะทำได้ดี และมีประสิทธิภาพกว่า โดยในปี ค.ศ. 2016 JPMorgan Chase บริษัทให้บริการทางการเงินชั้นนำระดับโลก ได้ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาษาเพื่อค้นหาสัญญาเงินกู้เชิงพาณิชย์จำนวน 12,000 สัญญา ซึ่งลดเวลาจาก 360,000 ชั่วโมงที่คนทำ เหลือเพียงไม่กี่วินาที สำหรับประเทศไทยที่เคยพูดกันว่าอาชีพนี้เรียนจบมาแล้ว มีงานทำ ไม่ตกงานแน่นอน100% นั้น คงจะพูดได้ไม่เต็มปากอีกต่อไปแล้ว
#สำหรับอาชีพผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditor : IA) และผู้ตรวจสอบภายนอก หรือผู้สอบบัญชี (External Auditor) ซึ่งเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาชีพนักบัญชีนั้น ก็คงจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับอาชีพนักบัญชีโดยตรง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ มีการนำ AI มาเป็นผู้ช่วย Auditor ในการตรวจสอบทุจริตจากข้อมูลระบบบัญชีและการเงินในระบบEnterprise Resource Planning หรือ ERP แล้ว โดย Macro Schreyer นักวิจัยจากDeep Learning Competence Center แห่ง German Research Center for Artficial Intelligence ได้ออกมาเผยแพร่ถึงงานวิจัยของตนที่ใช้ AI ในการตรวจจับพฤติกรรมทางบัญชีและการเงินที่ผิดปกติหรือ Anomaly Detection และ Unsupervised Deep Learning และ Accountingเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง
งานวิจัยชิ้นนี้อาศัยการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ ERP เพื่อเรียนรู้ Pattern การทำธุรกรรมต่างๆ ในยามปกติที่ไม่เกิดการทุจริตใดๆ ขึ้น โดยสมมติฐานของงานวิจัยชิ้นนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมการทุจริตนั้นจะมีรูปแบบที่ต่างจากการป้อนข้อมูลธุรกรรมตามปกติ ดังนั้นหากให้ AI ทำการเรียนรู้และเข้าใจPattern ในยามที่ระบบทำงานปกติถูกต้องทุกอย่าง เมื่อเกิดเหตุทุจริตขึ้นก็ย่อมจะต้องมีสัญญาณให้จับได้อย่างแน่นอน
ผลการทดสอบระบบนี้ด้วยการ Trainระบบ Deep Learning โดยใช้ข้อมูลบัญชีจริงที่เกิดขึ้นในธุรกิจ พบว่า ผลลัพธ์สามารถจำแนก Input ของข้อมูลที่เชื่อว่าเป็นเหตุทุจริตได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ที่ทำงานด้าน Audit สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแนวคิดเดียวกันนี้ก็อาจนำไปประยุกต์ใช้ในแง่มุมอื่นๆ ของธุรกิจได้อีกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่เชิงการเงินเท่านั้น
#นอกจากเทคโนโลยี “#ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence: AI) และ “#หุ่นยนต์” (Robots) แล้วยังมีเทคโนโลยีสำคัญอีก 6 ประเภท ที่ถือได้ว่าเป็น “#เทคโนโลยีสำคัญ8ประเภท (Essential Eight) ที่ภาคธุรกิจทั่วโลกต้องจับตา” ได้แก่ ความเป็นจริงเสริม หรือโลกกึ่งเสมือนจริง (Augmented Reality หรือ AR)บล็อกเชน (Blockchain)โดรน (Drones)อินเตอร์เน็ตเพื่อทุกสิ่ง (Internet of Things หรือ loT)โลกเสมือนจริง (VR : Virtual Reality) และเทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติ (3D Printing)
#สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอและชวนทุกท่านคิด ก็คือ แนวโน้มทางเทคโนโลยี หรือ IT Trend เหล่านี้ จะกระทบกับอาชีพการตรวจสอบภายใน (Internal Auditor : IA) นับจากนี้เป็นต้นไปในทิศทางไหนบ้าง และในแง่มุมไหนบ้างและ Trend ของการตรวจสอบภายใน (IA Trend) จะเป็นเช่นไร
#ในความเห็นของผมแล้วมองว่าITTrend เหล่านี้ สะท้อน #IATrend ใน 2 แง่มุม ดังนี้
1) #ความรู้ความสามารถของผู้ตรวจสอบภายในยุคใหม่ หรือยุค 4.0 นั้น ต้องพัฒนาและปรับปรุงให้สามารถตรวจสอบเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล
ผู้ตรวจสอบภายใน ต้องศึกษาและมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้ เพื่อให้สามารถระบุได้ถึงสิ่งต่างๆ ได้แก่
- ความเสี่ยง และโอกาสในการนำหรือไม่นำ เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้มาใช้ในองค์กร
- ความเสี่ยง และการควบคุม ของเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้
- วิธีการตรวจสอบเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้
และเพื่อให้ผู้ตรวจสอบภายใน สามารถให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์และมีคุณค่าต่อองค์กรได้
2) #อาชีพผู้ตรวจสอบภายในจะมีความท้าทายมากยิ่งขึ้นและมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น จากการที่มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในองค์กร
ที่ผมกล่าวว่า "ท้าทาย" เนื่องจาก ผมมองว่าเมื่อองค์กรนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้มาใช้ในองค์กรแล้ว เช่น นำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence หรือ AI) และ “หุ่นยนต์” (Robots)มาทำงานแทนคน
ซึ่งมีหลายอาชีพต้องตกงาน เพราะถูกลดจำนวนคน ซึ่งรวมถึงอาชีพนักบัญชี และอาชีพที่เกี่ยวข้องด้วย ได้แก่ ผู้ตรวจสอบภายนอก หรือผู้สอบบัญชี และผู้ตรวจสอบภายใน ตามที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น
แต่หากมองในทางกลับกันอาชีพผู้ตรวจสอบภายในในอนาคตอาจมีจำนวนมากขึ้น และมีความสำคัญมากขึ้นก็เป็นได้เนื่องจาก เมื่อองค์กรนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้มาใช้ เช่น นำหุ่นยนต์ หรือ AI มาแทนคนในองค์กรแล้ว ฝ่ายจัดการจะมั่นใจได้อย่างไรว่าหุ่นยนต์ หรือ AI เหล่านั้นจะทำงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล ตามที่ควรจะเป็น หรือตามวัตถุประสงค์ที่คนตั้งโปรแกรมไว้
จึงจำเป็นต้องมีผู้ตรวจสอบภายในมาเป็นหูเป็นตา เพื่อสร้างความเชื่อมั่น (Assurance) และให้คำปรึกษา (Consulting) กับฝ่ายจัดการ โดยช่วยตรวจสอบการปฎิบัติงานต่างๆ ที่ทำโดยหุ่นยนต์ หรือ AI ว่ามีความถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ และให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุง ซึ่งมีประโยชน์และคุณค่าต่อองค์กรต่อไป
#สิ่งเหล่านี้เป็น "#ความท้าทาย" #ที่ผู้ตรวจสอบภายในยุคใหม่ ยุค 4.0 ที่ผมเรียกว่า"Internal Auditor 4.0 (IA 4.0)" ต้องเผชิญ ตามกระแส IT Trend ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรงนี้
คำถามก็คือวันนี้คุณพร้อมรึยังครับ???
#ข้อมูลอ้างอิง :
- “ปัญญาประดิษฐ์”,https://th.wikipedia.org/wiki/ปัญญาประดิษฐ์
- “Definition of Internal Auditing”, https://global.theiia.org
- บทความชื่อ “7 อุตสาหกรรมที่ AI เป็นผู้ช่วยและทุ่นแรงให้กับมนุษย์”,https://www.aripfan.com
- บทความชื่อ “10 อาชีพต้องระวัง เพราะ “หุ่นยนต์” จะขโมยงานไปจากคุณ!”,Next Empire
- บทความชื่อ “AI กับการเป็นผู้ช่วย Audit ตรวจสอบทุจริตจากข้อมูลระบบบัญชีและการเงินใน ERP”,https://www.ADPT.news/
- บทความชื่อ “ยุคดิจิทัล ต้องรู้ทันเทรนด์เทคโนโลยี 2018 ปฎิวัติธุรกิจและอุตสาหกรรม" ,
https://www.applicadthai.com
....................................................................................
#ติดตามรายละเอียดของหลักสูตรต่างๆ ได้ใน #FBpageของบริษัท CIA Coach Consulting Co., Ltd. ตาม link นี้ครับ
https://www.facebook.com/CIA-Coach-Consulting-Co-Ltd-by-Coach-Meng-466788616782555/
#ติดตาม #Blog และ ช่อง #Youtube เพื่อนำเสนอผลงานของผม ทั้งงานเขียนบทความ และ Clip VDO รวมถึง Clip เสียง เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ ทั้งประเภทวิชาการ และ How-to ในการพัฒนาตนเองต่างๆ ครับ
#ชื่อBlog : CIA-Coach-Consulting
#ตามlinkนี้ครับ
CIA-Coach-Consulting.blogspot.com
#ตามlinkนี้ครับ
CIA-Coach-Consulting.blogspot.com
#ชื่อช่องYoutube : CIA Coach Consulting Co., Ltd. by Coach Meng
#ตามlinkนี้ครับ
https://www.youtube.com/channel/UCyO2UYgDeFBEcGTkM2A_mAw
#ตามlinkนี้ครับ
https://www.youtube.com/channel/UCyO2UYgDeFBEcGTkM2A_mAw
#ยินดีให้บริการและคำปรึกษาครับ
#โค้ชเม้ง
ผู้ตรวจสอบอิสระ โครงการ CAC SME Certification
ถือวุฒิบัตร #CIA #CRMA #CPIAT และ
#C-PA (Certified Performance Audit Professional)
#CoachMeng
#CIACoachConsultingCoLtd
#CleanOceanStrategy
เบอร์โทรศัพท์ & Line :
087-359-3331
#โค้ชเม้ง
ผู้ตรวจสอบอิสระ โครงการ CAC SME Certification
ถือวุฒิบัตร #CIA #CRMA #CPIAT และ
#C-PA (Certified Performance Audit Professional)
#CoachMeng
#CIACoachConsultingCoLtd
#CleanOceanStrategy
เบอร์โทรศัพท์ & Line :
087-359-3331
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น